สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของจีน (CASME) ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุน 3 พันล้านหยวน หรือ 439.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเรื่องการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศ โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ นอกจากการจัดตั้งกองทุนแล้ว จีนยังจะออกพันธบัตรร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลเหลียวหนิง และจัดตั้งธนาคารเพื่อระดมทุนให้ได้ 1 หมื่นล้านหยวน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลี่ ซีปิน ผู้บริหารของสมาคมฯ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว รัฐบาลจะจัดหาเงินกู้ให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเท่านั้น บริษัทเอกชนแต่ละแห่งจะได้รับเงินถึง 5 ล้านหยวนสำหรับการลงทุนและการดำเนินการต่างๆ ส่วนบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่มีรายได้จากยอดขายกว่า 300 ล้านหยวนจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนและธนาคาร
ผู้บริหารของสมาคมฯ กล่าวว่า ความยากลำบากในการระดมทุนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับการอยู่รอดของเอสเอ็มอี ข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนชี้ว่า บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง 67,000 แห่งที่มีรายได้จากยอดขายเกิน 5 ล้านหยวนต้องปิดทำการไปในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและนโยบายการเงินที่เข้มงวด
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีของจีนคิดเป็นสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนที่ 60% ขณะที่กลุ่มเอสเอ็มอีได้รับเงินกู้จากแบงค์ต่ำกว่า 25%
หลี่กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่า ตัวเลขดังกล่าวนั้นไม่ได้สัดส่วน โดยความต้องการที่อ่อนตัวลงทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก อย่างไรก็ดี จีนจำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีปัญหา