แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง คาดว่า ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังจะทักท้วงแนวคิดของนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง ที่จะสนับสนุนแนวคิดการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งจะมีการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา เนื่องจากเป็นห่วงผลกระทบต่อฐานะทางการคลัง เพราะการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เป็นงบแบบขาดดุลอยู่แล้วถึง 2.49 แสนล้านบาท และยังมีการเพิ่มงบกลางปีอีก 1 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมแผนการกู้เงินอื่น ๆ
"ปกติประมาณการของกระทรวงการคลังก็จะอยู่ในระดับที่ต่ำอยู่แล้ว การที่รัฐบาลตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และการกู้เงินอีกหลายรายการจะเป็นภาระมากขึ้น"แหล่งข่าว กล่าว
ขณะที่ล่าสุด เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ประเมินการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2552 จะต่ำกว่าประมาณการราว 1 แสนล้านบาท เนื่องจากจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้น้อยลง รวมทั้งภาษีสรรพากร เพราะผลประกอบการของภาคเอกชนมีกำไรลดลง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลระบุเหตุผลที่สามารถก่อหนี้สาธารณะเพิ่มเติมได้ เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้อยู่ที่ 36% ของจีดีพี แต่หากในอนาคตจีดีพีของประเทศปรับตัวลดลงจะส่งผลให้สัดส่วนหนี้เพิ่มขึ้นถึงระดับ 40% ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้มีภาระทางการคลังมากขึ้น จึงต้องมีการทักท้วงเพื่อไม่ให้มีการสร้างภาระทางการคลังมากจนเกินไป