ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข่าวรัฐบาลสหรัฐอุ้ม"ซิตี้กรุ๊ป" ฉุดดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 25, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากข่าวรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจอัดฉีดเงินทุนให้กับซิตี้กรุ๊ปส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเข้าซื้อดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลยอดขายบ้านที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2920 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2578 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5168 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4890 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6530 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6304 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้นที่ระดับ 0.5465 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5350 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 97.030 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 95.860 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1953 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2217 ฟรังค์/ดอลลาร์

เบเนดิค เจอร์มานิเยร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส เอจี ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ หลังจากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจอัดฉีดเงินทุนเพื่อพยุงกิจการซิตี้กรุ๊ปไม่ให้ได้รับผลกระทบจากมูลค่าหุ้นที่ทรุดตัวลงกว่า 60% ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเข้าซื้อดอลลาร์"

รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเข้าลงทุนจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในธนาคารซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือธนาคาร โดยมีเงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังและบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FDIC) จะเข้าถือหุ้นบุริมสิทธิ์ของซิตี้กรุ๊ป และจะคุ้มครองผลขาดทุนของพอร์ตเงินกู้และหลักทรัพย์มูลค่าราว 3.06 แสนล้านดอลลาร์ในงบดุลบัญชีของซิตี้กรุ๊ป ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยื่นมือช่วยเหลือในด้านการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม ผ่านทางการเสนอเงินกู้แบบ non-recourse

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ในสหรัฐร่วงลง 3.1% แตะระดับ 4.98 ล้านยูนิต ขณะที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี

นักลงทุนให้น้ำหนักกับการตัดสินใจของ บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ประกาศแต่งตั้งทิโมธี ไกธ์เนอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ให้ดำรงตำแหน่งรมว.คลัง และแต่งตั้งลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรมว.คลัง เป็นผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ