กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า การขยายตัวในภูมิภาคเอเชียจะยังคงชะลอตัวต่อไปในปีหน้า หลังจากที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก และเศรษฐกิจโกลเองที่อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้เอเชียเผชิญกับแนวโน้มการขยายตัวที่ชะลอตัวลงอย่างหนัก และความผันผวนที่เพิ่มขึ้น
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ภาวะตึงเครียดทางการเงินทั่วโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อไปจนถึงปีหน้า จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากความต้องการสินค้าส่งออกในเอเชียที่อ่อนตัวลง เงื่อนไขในการระดมทุนที่ลำบากมากขึ้น กระแสเงินสดหมุนเวียนที่ผันผวนมากกว่าเดิม ราคาหุ้นและความเชื่อมั่นที่อ่อนตัว ตลอดจนคุณภาพของเงินกู้ทีย่ำแย่ลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ไอเอ็มเอฟมองว่า การขยายตัวในเอเชียชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายปีหน้า ปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มมีมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาลงมากยิ่งขึ้น
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศแล้ว ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 0.2% ในปีหน้า เมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวปีนี้ที่ 0.5% ส่วนจีนคาดว่าจะขยายตัวช้าลงที่ 8.5% จากระดับคาดการณ์ในปีนี้ที่ 9.7% ส่วนอินเดียคาดว่า เศรษฐกิจจะร่วงลงมาอยู่ที่ 6.3% จากระดับ 7.8% และเกาหลีใต้คาดว่าจะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 2.0% จากระดับ 4.1%
โดยรวมแล้ว การขยายตัวในเอเชีนคาดว่า จะชะลอตัวลงจากระดับ 6.0% ในปีนี้ แตะ 4.9% ในปีหน้า
รายงานของไอเอ็มเอฟระบุว่า นโยบายการเงินที่มีลักษณะผ่อนปรนของประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียนั้นถือเป็นนโยบายที่เหมาะสมแล้ว และหลายๆประเทศเองมีโอกาสที่จะใช้นโยบายกระตุ้นด้านการเงินมากขึ้น