จิม โรเจอร์ส นักลงทุนชื่อดังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกูรูด้านเศรษฐกิจระดับแนวหน้าของโลกและเป็นเจ้าของบริษัท โรเจอร์ส โฮลดิ้งส์ ในสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินดอลลาร์จะมีค่าน้อยลงเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายสกัดกั้นการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์มีบทบาทน้อยลงในฐานะสกุลเงินหลักที่ทั่วโลกใช้เป็นทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
"ผมคิดว่าหากรัฐบาลสหรัฐยังคงคิดที่จะใช้นโยบายสกัดกั้นการแข็งค่าของดอลลาร์ ก็จะช่วยให้สหรัฐมีข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดโลก แต่จากประวัติศาสตร์พบว่าวิธีการดังกล่าวไม่เคยใช้ได้ผลในระยะยาว" โรเจอร์สกล่าว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า โรเจอร์สคาดการณ์ทิศทางดอลลาร์ได้อย่างแม่นยำ โดยดัชนี ICE สกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 18% นับตั้งแต่โรเจอร์สคาดการณ์เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ว่า "ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น"
โรเจอร์กล่าวว่า "นับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยกเว้นเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร หลังจากทั่วโลกเผชิญวิกฤตการณ์การเงินอย่างหนัก แต่การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สหรัฐเสียเปรียบด้านการส่งออก จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลพยายามหาลู่ทางที่จะสกัดกั้นการแข็งค่าของดอลลาร์ และสนับสนุนภาคส่งออกให้เป็นทางเลือกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ"
"ผมเชื่อว่าดอลลาร์จะสูญเสียบทบาทในการเป็นสกุลเงินหลักที่ทั่วโลกใช้เป็นทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์จะมีค่าน้อยลงอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงก็เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐต้องการสกัดกั้นการแข็งค่าของดอลลาร์และสนับสนุนนโยบายดอลลาร์อ่อนค่า" โรเจอร์สกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน