นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมการประหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง และยืนยันที่จะมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มเพื่อลดการใช้เงินภาครัฐเข้าไปอุดหนุนผู้ใช้ก๊าซในประเทศ เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้ยังคงมีความผันผวนสูง
ทั้งนี้ ยังต้องรอดูว่ากลุ่มโอเปคจะลดกำลังการผลิตมากน้อยแค่ไหนในการประชุมวันที่ 29 พ.ย.นี้ เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หากมีการปรับลดกำลังการผลิตลงอาจจะทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก และราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวขึ้นได้
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานใช้งบประมาณจำนวน 500 ล้านบาท ส่งเสริมการการปรับหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนผ่านมากสนับสนุนบริษัทจัดการพลังงาน(ESCO) ในการลงทุนพัฒนาประหยัดพลังงานในอาคารและโรงงาน โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อาจจะขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ได้ลำบาก เชื่อว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมการประหยัดพลังงานได้ 250 ล้านบาทต่อปี และจะเกิดการลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 1,250 ล้านบาท
และกระทรวงพลังงานจะยังคงยึดมติคณะรัฐมนตรีในการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในภาคอุตสาหกรรมและขนส่ง ถึงแม้จะมีผู้ประกอบการเซรามิกทำหนังสือขอให้ทบทวนการแนวทางดังกล่าว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลต้องใช้เงินจำนวนมากในการอุดหนุนราคาสำหรับการใช้ผิดประเภท
ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) กล่าวว่า การประชุมโอเปคในวันเสาร์นี้ที่คาดว่า จะมีลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะมีผลในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เพราะกลุ่มโอเปกต้องการเพิ่มราคาน้ำมันจากระดับปัจจุบันที่ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก
และล่าสุดราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้น 4.5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะสหรัฐได้ใช้เงินจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปช่วยธนาคารซิตี้กรุ๊ป ทำให้ภาวะตลาดหุ้นและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันในช่วงสิ้นปีนี้คงจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่วนในปีหน้าราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยที่ระดับ 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันในประเทศผู้ค้าก็พยายามปรับลดตามราคาน้ำมันตลาดโลก แต่การที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์น่าจะมีการปรับตัวขึ้นตาม ส่งผลผู้ค้าอาจจะชะลอการปรับลดลงราคาน้ำมันในประเทศในช่วงสุดสัปดาห์นี้ลงอีกครั้ง
แต่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้ปั้มน้ำมันในต่างจังหวัดหยุดขายน้ำมันเป็นการชั่วคราวบางแห่ง โดยในส่วนของลูกค้าบางจากฯ ก็มีการปิดปั้มไป 10-20 แห่ง แต่บริษัทก็ได้ขอร้องให้ขายน้ำมันต่อไปเพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชน