องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization - ILO) ได้เปิดเผยรายงาน Global Wage Report 2008/9 วันนี้ ชี้แนวโน้มของค่าแรงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคไม่สดใส เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อต่อไปอีกหลายปี โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2551 — 2552 ลง ส่งผลให้ ILO คาดการณ์ว่า การขยายตัวของค่าแรงโดยเฉลี่ยไม่น่าจะสูงเกิน 1.8% โดยมีความเป็นไปได้ที่จะมีการลดค่าแรงในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวในระดับต่ำ ทั้งนี้ การคาดการณ์ค่าแรงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคต่ำกว่าการคาดการณ์ค่าแรงทั่วโลกที่ 2.1% เล็กน้อย
นอกจากนี้ ราคาสินค้าที่ปรับตัวลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมายังคงเป็นปัจจัยที่คุกคามค่าแรง โดยเฉพาะแรงงานที่มีรายได้ต่ำ ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่าภาวะตึงเครียดด้านค่าแรงจะทวีความรุนแรงขึ้น และสถานประกอบการก็อาจจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับค่าแรงเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการลดการจ้างงาน
ILO ได้แนะวิธีบรรเทาปัญหาในระยะสั้นด้วยการที่รัฐบาลแสดงความมุ่งมั่นในการดูแลอำนาจซื้อของประชาชน โดยที่ผ่านมา ธนาคารกลางและสถาบันการเงินระหว่างประเทศได้อภิปรายกันเป็นวงกว้าง แต่ประเด็นการพิจารณาดังกล่าวก็ยังคงมุ่งเน้นอย่างจำกัดที่การควบคุมการขึ้นค่าแรงให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อไม่ให้เกิดกระแสการขึ้นราคาสินค้าตามค่าแรง หรือป้องกันไม่ให้เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ซึ่ง ILO มองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมที่จะรักษากำลังซื้อของประชาชนท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบาก โดยฝ่ายต่างๆในสังคมควรจะมีส่วนร่วมในการเจรจาหาวิธีป้องกันไม่ให้ค่าแรงถดถอยลงตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นอกจากนี้ ควรจะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำหากเป็นไปได้ เพื่อคุ้มครองแรงงานที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการใช้มาตรการช่วยเหลือ เช่น การให้เงินอุดหนุนด้านอาหารและการจ่ายเงินสด
ทั้งนี้ ILO ได้จัดทำรายงาน Global Wage Report ขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ขณะที่ภาคแรงงานทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตการลดการจ้างงาน