นักวิเคราะห์คาดภาคเอกชนญี่ปุ่นใช้จ่ายเงินทุนต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับการแข่งขันทางศก.

นักวิเคราะห์จาก Development Bank of Japan เปิดเผยว่า บริษัทญี่ปุ่นจะยังคงใช้จ่ายเงินทุนอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญภาวะถดถอย เพื่อรักษาระดับการแข่งขันให้ได้ต่อไป

"ผมไม่คิดว่าการลงทุนในภาคธุรกิจจะปรับตัวลดลง" โทรุ นาเบยาม่า นักวิเคราะห์จาก Development Bank of Japan กล่าว "การลงทุนท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันเป็นสิ่งที่บางบริษัทไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะจะช่วยให้บริษัททั้งในและต่างประเทศอยู่รอด แต่การใช้จ่ายเงินทุนต่างๆอาจปรับตัวลดลงบ้างแต่จะไม่รุนแรงเท่ากับช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อครั้งที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า ค่าใช้จ่ายในโรงงานจะปรับตัวลดลงราว 1% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 จากตลาดสินเชื่อทั่วโลกที่ตึงตัว"

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่จะปรับลดการใช้จ่ายลง โดยดัชนีชี้วัดเงินทุนหมุนเวียนของ Development Bank of Japan ในบริษัทเอกชนทั้งหมดขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 130 จุด จากระดับ 100 จุดในปี 2537

อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า การลงทุนภาคเอกชนจะยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกได้ เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อได้ส่งผลกระทบให้ผลผลิตทั่วโลกชะลอตัวลงโดยชี้ว่า "ปัญหาขาดเงินทุนเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจอ่อนแออย่างหนัก และจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีกว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น"

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเผชิญภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตการเงินทั่วโลกกระตุ้นให้บริษัทหลายแห่งลดการใช้จ่าย โดยแคนนอน อิงค์ได้ประกาศลดการใช้จ่ายด้วยการเลื่อนโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องพิมพ์ทางตอนใต้ของประเทศโดยอ้างถึงอุปสงค์ที่ซบเซาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ขณะที่นิสสัน ค่ายรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นกล่าวว่าบริษัทจะลดการใช้จ่ายเงินทุน 11%

"ญี่ปุ่นจะขาดปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยการขยายตัวสักระยะหนึ่ง" ยูอิจิ โคดามะ นักวิเคราะห์จาก Meiji Yasuda Life Insurance Co. ในโตเกียวกล่าว "อุปสงค์จากต่างประเทศที่ชะลอตัว ผลกำไรที่ได้รับแรงกดดันและวิกฤตการเงินที่เลวร้ายทำให้การใช้จ่ายเงินทุนชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง"