ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่ง หลังข้อมูลศก.สหรัฐกระตุ้นนลท.แห่ซื้อดอลล์เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 27, 2008 07:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้าช้อนซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 95.700 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 95.240 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.2043 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1838 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2880 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3057 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5325 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5462 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6519 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.6498 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5519 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5467 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

เม็ก บราวน์ นักวิเคราะห์จาก Brown Brothers Harriman ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เมื่อคืนนี้ ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินอื่นๆ ซึ่งช่วยหนุนดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ ภาวะการซื้อขายในขณะนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นแหล่งการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำในยามที่เศรษฐกิจเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรง"

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนพ.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 55.3 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 57.6 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 57.7 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น รายได้ที่ลดลง และราคาบ้านที่ตกต่ำลง

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ร่วงลง 6.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีพ.ศ.2548 เนื่องจากความต้องการสินค้าคงทนลดลงแทบจะทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.จะลดลงเพียง 3.0%

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วงลง 5.3% แตะระดับ 433,000 ยูนิต จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 457,000 ยูนิต โดยยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.เป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 17 ปีครึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ