กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ร่วงลง 6.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีพ.ศ.2548 เนื่องจากความต้องการสินค้าคงทนลดลงแทบจะทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.จะลดลงเพียง 3.0%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ความต้องการรถยนต์ลดลง 4.5% ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขณะที่ความต้องการเครื่องบินพาณิชย์ลดลง 4.7%
ส่วนยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่งลดลง 11.1% ยอดสั่งซื้อโลหะพื้นฐาน อาทิ เหล็ก ร่วงลง 12.6% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงสุดเป็ประวัติการณ์ ขณะที่ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรลดลง 6.8% และยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิก ร่วงลง 2.4%
ดานา ซาพอร์ตา นักวิเคราะห์จากบริษัท Dresdner Kleinwort กล่าวว่า "อัตราการลงทุนในภาคธุรกิจที่ลดลง ประกอบกับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ทรุดตัวลง จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอีกในปีนี้และปีหน้า ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจไม่ได้เพียงชะลอตัวลง แต่เข้าขั้นทรุดตัวลง นอกจากนี้ การที่ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้นและความต้องการสินค้าที่ลดน้อยลง กำลังส่งผลให้สินค้าค้างสต็อกของบริษัทในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นไปด้วย" สำนักข่าวเอพีรายงาน