กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า อัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนต.ค.ร่วงลง 1% ซึ่งรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.9% เนื่องจากวิกฤตการเงินในขณะนี้ได้สร้างแรงกดดันมากขึ้นจนทำให้ชาวอเมริกันลดการใช้จ่ายมากกว่าเมื่อครั้งที่เกิดเหตุก่อการร้ายสหรัฐในปี 2544
นอกจากนี้ ทางกระทรวงระบุด้วยว่า รายได้ส่วนบุคคลเมื่อเดือนที่ผ่านมาขยับขึ้น 0.3% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะกระเตื้องขึ้นเพียง 0.1%
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายที่ปรับตัวลดลงในเดือนต.ค.เป็นหลักฐานที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยที่ถลำลึกลงมากขึ้น เพราะตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคมีสัดส่วนคิดเป็น 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงกลางปีหน้าและจะทวีความรุนแรงหนักที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจซบเซาเมื่อปี 2524-2525
ทั้งนี้ ผู้บริโภคได้รับแรงกดดันจากตัวเลขว่างงานที่สูงขึ้น และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง รวมถึงวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2473 ขณะที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงแผนฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดสินเชื่อครั้งล่าสุดมูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา