นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวถึงการประชุมร่วมกับคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหหารบก(ผบ.ทบ.) เมื่อวานนี้ว่า หลังจากคณะกรรมการฯ มีมติให้ยื่นข้อเสนอให้กับนายกรัฐมนตรี และฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว ก็ควรจะต้องให้เวลาในการพิจารณา และคาดว่าจะมีการเจรจากันอีกครั้งด้วย
"ทุกคนอยากช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อให้จบให้ได้ แต่ข้อเสนอเพิ่งเกิด ก็ขอให้เวลาก่อน เพราะปัญหาการเมืองเกิดมานานแล้ว อยู่ ๆ เสนอไปก็ต้องรอก่อนไม่ใช่ปุบปับจะได้ผลเลย"นางธาริษา กล่าว
นางธาริษา กล่าวว่า ทุกคนหวังว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น อยากให้ประเทศกลับมาอยู่ในกรอบประชาธิปไตย และให้สองฝ่ายประนีประนอมกันได้
ส่วนปัญหาการเมืองที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจในขณะนี้นั้น ไม่มีใครรู้ว่าจบอย่างไร เช่นเดียวกับปัญหาเศรษฐกิจในระดับโลก ทุกฝ่ายก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลายประเทศก็ให้ความสำคัญกับการฟื้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการด้านการคลังเป็นหลัก แต่ผู้บริโภคจะใช้จ่ายเหมือนเดิมหรือไม่ก็ยังไม่ชัดเจน
แม้กระทั่งสหรัฐก็มีความคิดแยกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าถ้ามีเม็ดเงินมาลงเศรษฐกิจคนก็จะใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าผลกระทบมีความรุนแรงมาก การใช้นโยบายการคลังน่าจะเห็นผลน้อยลงและช้าเกินไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงหลักที่จะกระทบเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามาจากเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น ก็จะทำให้การส่งออกของไทยเร่งตัวขึ้นได้เร็ว