นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะสามารถขยายตัวต่อไปได้แม้เกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีเมืองมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของอินเดีย เนื่องจากรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นและการเก็บเกี่ยวพืชผลที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค
มาร์ค โมเบียส นักวิเคราะห์จากบริษัท Templeton Asset Management กล่าวว่า "สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอินเดียไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาอินเดียเคยเผชิญสถานการณ์ที่หนักหนากว่านี้แต่ก็สามารถเอาตัวรอดได้ ทั้งนี้ก็เพราะอินเดียมีรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และชาวอินเดียสามารถปรับตัวให้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว"
นายคามัล นาธ ซึ่งเป็นรมว.การค้าอินเดียกล่าวว่า การโจมตีเป้าหมายสำคัญในมุมไบจะไม่ทำให้กระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่เศรษฐกิจอินเดียชะลอตัวลง และเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจ แต่เป็นเหตุการณ์ที่อุบัติขึ้นด้วยน้ำมือคนเพียงหยิบมือเดียว ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในนิวยอร์กและในเมืองใหญ่แห่งอื่นๆ
ด้านนายพาลาเนียปาน ชิดามบาราม รมว.คลังอินเดียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 9% ในปีหน้าแม้เศรษฐกิจโลกถดถอย โดยเชื่อว่าแม้เกิดเหตุก่อการร้ายที่สร้างความหวั่นวิตกไปทั่วโลก แต่เชื่อว่าอัตราการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในอินเดียจะยังคงขยายตัวต่อไปได้
ทั้งนี้ กลุ่มก่อการร้ายได้ลอบโจมตีโรงแรมทัชมาฮาล พาเลซ และทาวเวอร์ โฮเต็ล ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในเมืองมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งการโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ชาวต่างชาติ นอกจากนี้ คนร้ายยังได้จับตัวชาวต่างชาติเป็นประกัน อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่าหน่วยคอมมานโดของอินเดียได้จู่โจมเข้าช่วยเหลือตัวประกันไว้ได้แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน