ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักสุดในรอบเกือบ 3 ปีตลอดทั้งสัปดาห์นี้เมื่อเทียบกับเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดสินเชื่อของสหรัฐจะทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงเช่น สกุลเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศใช้มาตรการ 8 แสนล้านดอลลาร์เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ขณะที่สหภาพยุโรปเสนอแผน 2 แสนล้านยูโร (2.58 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนจีนได้ปรับลดดอกเบี้ยมากที่สุดในรอบเกือบ 11 ปี
ด้านสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเริ่มต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้สินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงแข็งค่าขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.55 น. ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.2893 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งลดลงจากวันก่อนเล็กน้อย และร่วงลง 2.4% จากระดับเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังซื้อขายกันที่ระดับ 95.50 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.19 เยนต่อดอลลาร์
เงินยูโรเทรดที่ 123.11 เยน/ยูโร จากระดับ 122.89 เยน/ยูโรเมื่อวานนี้ ซึ่งแข็งค่าขึ้น 2% ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับ 1.2930 ดอลลาร์/ยูโรในวันนี้
สำหรับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียนั้นแข็งค่าขึ้น 3.8% แตะที่ 65.63 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ระดับขึ้น 2.7% แตะที่ 55.18 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เท็ตซึมุ โซมะ นักวิเคราะห์จากบล. Okasan Securities Co. ในโตเกียวกล่าวว่า "ขณะนี้นักลงทุนได้คลายความตื่นตระหนกในการเข้าซื้อเงินดอลลาร์แล้ว ขณะที่หลายประเทศต่างหามาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีผลต่อทิศทางการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา"