นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดีในการปรับลดราคาสินค้าลงตามต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยจะมีการปรับลดราคาเหล็ก ยางรถยนต์ และแบตเตอรี่
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป จะมีการปรับราคาแนะนำขายปลีกเหล็กเส้นลง 2 บาท/กก. หรือตันละ 2,000 บาท และเหล็กแผ่นรีดร้อน 4 บาท/กก. หรือตันละ 4,000 บาท เนื่องจากแนวโน้มวัตถุดิบและราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลง และความต้องการใช้ลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งราคาแนะนำเหล็กเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เหล็กเส้นอยู่ที่ 28,250 บาท/ตัน และเหล็กแผ่นอยู่ที่ 30,000-32,000 บาท/ตัน
ส่วนยางรถยนต์จะมีปรับลดราคาลง 10-15% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.52 โดยในเดือน พ.ย.51 ต้นทุนราคายางธรรมชาติอยู่ที่ตันละ 1,642 ดอลลาร์ หรือ 57.68 บาท/กก. ทำให้ต้นทุนรวมยางรถยนต์อยู่ที่เส้นละ 1,415 บาท และมีราคาขายปลีกอยู่ที่เส้นละ 2,150 บาท
ขณะที่แบตเตอรี่จะปรับลดราคาลง 5-10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.52 เนื่องจากต้องรอเคลียร์สต๊อกเก่าให้หมดก่อน แต่ผู้ประกอบการบางรายรับปากจะพยายามปรับลดราคาให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ม.ค.52
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วันนี้จะเชิญผู้ผลิตอาหารสัตว์และถั่วเหลืองมาหารือเพื่อปรับราคาสินค้าลงตามต้นทุนที่ลดลง โดยในส่วนของอาหารสัตว์คาดว่าจะปรับลดลงได้อีก หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้มีการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 4% เหลือ 2% แล้ว ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองก็มีแนวโน้มว่าจะปรับลดราคาลงได้เช่นกันเพราะต้นทุนลดลง ซึ่งหากผู้ประกอบการไม่ปรับลดราคาลงก็จะแข่งขันกับน้ำมันปาล์มได้ยาก