ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นดิ่งลง 27% ในเดือนพ.ย. เหตุศก.ซบเซาบีบผู้ซื้อลดใช้จ่าย

ข่าวต่างประเทศ Monday December 1, 2008 13:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายรถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน โดยเฉพาะยอดขายรถของโตโยต้า และ นิสสัน เนื่องจากผู้ซื้องดการจับจ่ายใช้สอยท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง

สมาคมผู้จัดจำหน่ายยานยนต์แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัส ไม่รวมรถขนาดเล็ก ร่วงลง 27% แตะ 215,783 คันในเดือนพ.ย. โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ขายรถได้ลดลง 28% เหลือ 106,342 คัน ไม่รวมแบรนด์ เล็กซัส ส่วนยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ โค ค่ายรถรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ร่วง 30% ลงมาอยู่ที่ 30,134 คัน

สำหรับยอดขายของฮอนด้า ร่วงลง 22% แตะ 29,448 คันในเดือนก่อน ขณะที่มาสด้า มอเตอร์ จำหน่ายรถได้ 9,699 คัน ลดลง 33%

ความต้องการในประเทศและในสหรัฐที่ทรุดลงส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นต้องปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงินนี้ เนื่องจากค่าแรงที่ลดลง บวกกับสินเชื่อที่ตึงตัวได้จำกัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยค่าแรงของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในปีนี้เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต่างๆลดค่าใช้จ่ายในการทำงานล่วงเวลามากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า บริษัทต่างๆของญี่ปุ่นมีแผนเลิกจ้างพนักงานชั่วคราวและพาร์ทไทม์ประมาณ 30,000 คน ก่อนสิ้นปีงบการเงินล่าสุดในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยโตโยต้าจะปรับลดคนงานชั่วคราวในประเทศ 3,000 ตำแหน่ง หรือ 50% ของพนักงานชั่วคราวทั้งหมด ภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า

ความต้องการในประเทศที่ลดลงนับเป็นข่าวร้ายที่คู่ขนานมากับยอดขายที่ร่วงลงในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นทำกำไรได้มากที่สุด โดยในเดือนต.ค. ยอดขายของโตโยต้าในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลง 23% ขณะที่ยอดขายของนิสสันดิ่งลง 33% และฮอนด้าลดลง 25%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ