จิม โอนีล นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ประเทศในกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเทศตลาดเกิดใหม่ คือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน จะเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัวต่อไปได้ หลังจากเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงญี่ปุ่น เข้าสู่ภาวะถดถอย
โอนีลกล่าวว่า "สี่ประเทศในกลุ่ม BRIC มีนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ อัตราการลงทุนในประเทศกลุ่มนี้มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ได้ อาจกล่าวได้ว่า ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศ BRIC เป็นความหวังที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น"
ที่ผ่านมานั้น ผู้นำจีนพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่ารวม 4 ล้านล้านหยวน (5.86 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เพื่อกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ หลังจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจลดการนำเข้าสินค้าจากจีน
ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการเงินทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลจึงเล็งเห็นความจำเป็นในการใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน ซึ่งครอบคลุมถึงโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ ถนน รถไฟ และท่าอากาศยาน การลดหน่อยภาษีสำหรับนิติบุคคล และการสนับสนุนเกษตรกร
นอกจากนี้ โอนีลคาดว่า บราซิลจะก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจภายในปีพ.ศ. 2593 ถ้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของบราซิลยังคงอยู่ที่ 3.5% ต่อปี "ความแตกต่างที่เกิดขึ้นในประเทศกลุ่ม BRIC อาทิ ความแตกต่างเรื่องมลภาวะ ย่อมอธิบายได้เป็นอย่างดีว่า เพราะเหตุใดเศรษฐกิจของบราซิลจึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังสามารถยืยหยัดอยู่ในกลุ่ม BRIC ได้ การที่รัฐบาลบราซิลตั้งเป้าที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวขึ้นในอัตรา 5% ภายใน 2-3 ปีหน้านั้น ถือเป็นเป้าหมายที่ดี และถ้าบราซิลยังคงยึดมั่นในเป้าหมายการขยายตัวที่ระดับ 4.5% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ก็จะช่วยให้บราซิลไปถึงเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ได้" โอนีลกล่าว
นอกจากนี้ นายโอนีลกล่าวว่า บราซิลยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในด้านบวกจากสถาบันจัดอันดับหลายแห่ง เนื่องจากบราซิลเป็นประเทศที่ปลอดหนี้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆในกลุ่ม BRIC สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน