ดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ตลาดเอเชียพุ่งสูง หลังแบงค์พาณิชย์กักตุนเงินขณะศก.ถดถอย

อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในตลาดเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต่างพากันกักตุนเงินสดท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งจะสร้างความยากลำบากต่อการชำระหนี้ของภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ตลาดโตเกียว (Tibor) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 แตะที่ 0.883% ซึ่งทำสถิติขยายตัวขึ้นยาวนานที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ตลาดฮ่องกง (Hibor) พุ่งขึ้น 0.09% แตะที่ 2.04% ซึ่งเป็นระดับการพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ส่วนอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในตลาดสิงคโปร์ (Sibor) ไต่ระดับขึ้นเป็น 2.24% จากเดิมที่ระดับ 2.22% เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา

"ธนาคารพาณิชย์ยังไม่ต้องการที่จะปล่อยเงินกู้" ทามาร่า เฮนเดอร์สัน นักวิเคระห์จาก Australia & New Zealand Banking Group Ltd กล่าว "เรามองเห็นถึงผลกระทบที่แท้จริงจากวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นทั่วทั้งเอเชีย ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐจำเป็นต้องมั่นใจก่อนว่าผู้ขอกู้เงินแต่ละรายไม่มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ให้กับธนาคาร"

ทั้งนี้ ตลาดสินเชื่อเริ่มตกอยู่ในภาวะตึงตัวนับตั้งแต่ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ เอสเอ ระงับการถอนเงินออกจากกองทุน 3 แห่งในเดือนส.ค.2550 และหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกออกมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงิน พร้อมทั้งอัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และกองทุนหลายแห่งต่างปรับลดการจ้างงานหลายตำแหน่ง และมียอดปรับลดมูลค่าทางบัญชีรวมถึงตัวเลขขาดทุนอีกเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ต้นปี 2550 เป็นต้นมา