ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของออสเตรเลียหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันในไตรมาส 3 หลังการส่งออกถ่านหินและสินแร่เหล็กมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า บัญชีเดินสะพัดขาดดุลหดตัวลงแตะ 9.74 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากที่ขาดดุล 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในไตรมาส 2 ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะขาดดุล 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
อุปสงค์ถ่านหินและแร่เหล็กจากจีนช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออกให้กับออสเตรเลีย ทั้งยังเพิ่มกำไรให้กับบริษัทเหมืองแร่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบีเอชพี บิลลิตัน ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอาจหดตัวลงอีกเนื่องจากผู้บริโภคซื้อสินค้านำเข้าน้อยลง
ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ณ เวลา 14.30 น.ตามเวลาเมลเบิร์น ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจประกาศลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ที่ 4.5% จากเดิมที่ 5.25%
"ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มว่าจะลดลงเหลือราว 4% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าน้อยสุดนับตั้งแต่ปี 2545" ไบรอัน เรดิกัน นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงจากบริษัท แม็คควอรี กรุ๊ป ในซิดนีย์ กล่าว
"ปัจจัยที่ทำให้ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งตลอดช่วงปีนี้" นายเรดิกัน กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.35 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายอยู่ที่ระดับ 63.79 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 63.48 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานนี้ ส่วนพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 2 ปียังทรงตัวที่ 2.99%