บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) เปิดเผยว่า บริษัทจะไม่มีเงินมาใช้ชำระหนี้ในเดือนนี้ หากทางสภาคองเกรสยังไม่อนุมัติเงินช่วยเหลือ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็ว ขณะที่บริษัทกำลังหาทางขอเงินช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เลวร้ายกดดันให้บริษัทต้องใช้เงินสดเพิ่มมากขึ้น
โดยจีเอ็มได้เรียกร้องให้ทางสภาคองเกรสอนุมัติเงินกู้ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และออกสินเชื่อเพิ่มอีก 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัทปรับลดพนักงานในสหรัฐลง 34% พร้อมทั้งปิดโรงงานบางแห่งเพื่อปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
ริก วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็มกล่าวว่า "แผนการของเราเป็นส่วนหนึ่งในข้อเรียกร้องเร่งด่วนที่ขอให้รัฐบาลสหรัฐยอมอนุมัติเงินช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะระบุถึงสาเหตุที่ว่าทำไมจีเอ็มจึงต้องขอเงินทุนจากรัฐบาลที่ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยให้จีเอ็มอยู่รอดได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเศรษฐกิจสหรัฐด้วย"
ทั้งนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ โคได้เรียกร้องให้ทางสภาคองเกรสออกวงเงินกู้สูงสุด 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไครสเลอร์ แอลแอลซีต้องเงินเงินกู้ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเกรงว่าบริษัทอาจประสบภาวะเงินขาดมือในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
ทั้งนี้ จีเอ็มเปิดเผยว่า ยอดขายรถของจีเอ็มในสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง 41% จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ฟอร์ดรายงานยอดขายที่ทรุดตัวลง 31% และไครสเลอร์รายงานยอดขายที่ร่วงลง 47%
ด้านแฮร์รี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเขาเห็นพ้องที่จะให้มีการจัดประชุมรอบสองเพื่อพิจารณาถึงขอเสนอจากค่ายรถทั้งสามในสัปดาห์หน้า ขณะที่สภานิติบัญญัติมีกำหนดเข้าประชุมครั้งแรกในวันที่ 4-5 ธ.ค.นี้