แนนซี เพโลซี โฆษกสภาคองเกรสสหรัฐกล่าวว่า เธอมั่นใจว่าสภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ เพราะต่างก็มีมุมมองที่เหมือนกันว่า "การปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ล้มละลายไม่ใช่ทางออกที่ดี"
"ดิฉันเชื่อว่ารัฐบาลจะยื่นมือเข้าแทรกแซงอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างแน่นอน เพราะการปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ล้มละลายย่อมส่งผลกระทบต่อทุกคน ซึ่งรวมถึงระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของเรา และนั่นไม่ใช่ทางออกที่ดี ดิฉันมั่นใจว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือคณะทำงานของประธานาธิบดีบุชอาจจัดสรรเม็ดเงินจากมาตรการมูลค่า 7 แสนล้าน ออกมาให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมประเภทนี้" นางเพโลซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตัน
ด้านนายเฮนรี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า "ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้เขาจะเสนอให้มีการร่างกฎหมายช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ เราพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อกอบกู้สถานการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มบริษัทรถยนต์ในสหรัฐได้ยื่นแผนขอกู้เงินต่อสภาคองเกรสในวันนี้ พร้อมเอกสารที่ลงรายละเอียดต่างๆที่จะโน้มน้าวให้สภาคองเกรสอนุมัติวงเงินกู้ โดยบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ขอวงเงินกู้จากสภาคองเกรสมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ พร้อมให้ความหวังว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในปีพ.ศ.2553 ขณะที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ร้องขอเงินกู้ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และไครส์เลอร์ ยื่นขอเงินกู้ 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินกูในรูปของการให้เงินกู้ยืมเฉพาะกาล (Bridge Loan)
ริค วาโกเนอร์ ซีอีโอจีเอ็มเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะตกต่ำจนถึงกับล่มสลาย หากรัฐบาลสหรัฐปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศล้มละลาย ขณะที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ "หากรัฐบาลปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ล้มละลาย ก็จะมีคนตกงานกว่า 3 ล้านคนภายในปีแรก จากนั้นรายได้ส่วนบุคคลจะร่วงลงอย่างน้อย 1.50 แสนล้านดอลลาร์ และรัฐบาลจะต้องสูญรายได้จากภาษีถึง 1.56 แสนล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 3 ปี สถานการณ์ดังกล่าวจะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยรุนแรงกว่าที่คาดคิด และมูลค่าความเสียหายจะมากกว่าเม็ดเงินที่รัฐบาลควรจะนำมาช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ ผมกล้าพูดว่า หากรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในดีทรอยท์รอดตายเท่านั้น แต่ยังโอบอุ้มระบบเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะล่มสลายด้วย" วาโกเนอร์กล่าว