บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกอบด้วย เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ แอลแอลซี ได้ยื่นขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสหรัฐรวมกันทั้งสิ้น 3.4 หมื่นล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่เคยขอไป 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจที่ทั้งสามบริษัทได้ยื่นต่อสภาคองเกรสวานนี้ เผยให้เห็นว่า จีเอ็ม พยายามขอความช่วยเหลือเป็นเงิน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ฟอร์ด ขอเงินกู้ 9 พันล้านดอลลาร์ และไครสเลอร์ต้องการเงินกู้ 7 พันล้านดอลลาร์ ก่อนสิ้นปีนี้
จีเอ็มและไครสเลอร์ระบุว่า บริษัทจะสิ้นเนื้อประดาตัวหากรัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลือภายในปีนี้ ซึ่งหมายความว่า หากสภาคองเกรสไม่ลงมติรับรองแผนปรับโครงสร้างธุรกิจดังกล่าว ก็จะยิ่งทำให้ค่ายรถทั้งสามแห่งเข้าใกล้สถานะล้มละลายมากขึ้นไปอีก
ด้านฟอร์ด กล่าวว่า แม้บริษัทยังสามารถประคองตัวอยู่ได้ในเวลานี้โดยไม่พึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่บริษัทก็ต้องการเงินกู้ยืมมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันการล้มละลาย ท่ามกลางสภาวะการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆของตลาดรถยนต์สหรัฐ
ทั้งนี้ ซีอีโอของจีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์ จะเดินทางไปชี้แจงแผนกู้ยืมและรับฟังการพิจารณาของสภาคองเกรสที่วอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่จะถึงนี้
สำหรับแผนการที่ยื่นต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ เป็นฉบับปรับปรุงใหม่หลังจากที่แผนการที่ได้นำเสนอเมื่อเดือนพ.ย.ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาคองเกรสว่าจะสามารถใช้ได้ผล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ภายใต้แผนการกู้ยืมฉบับล่าสุด ซีอีโอทั้งสามบริษัทจะยอมลดเงินเดือนของตัวเองลงเพื่อแสดงให้คองเกรสได้เห็นถึงความตั้งใจของพวกเขาที่ต้องการให้บริษัทอยู่รอดมากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน นอกจากนี้ทั้งสามบริษัทจะผลักดันการพัฒนายานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ รถพลังงานไฟฟ้า
จีเอ็มระบุว่า บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและทำตลาดแบรนด์ Chevrolet, Cadillac, Buick และ GMC ส่วนที่เหลืออีก 4 แบรนด์ ได้แก่ Pontiac, Saturn, Saab และ Hummer นั้น บริษัทจะพิจารณาปรับลดการผลิตหรืออาจจะขายแบรนด์ทิ้ง พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานสูงสุด 31,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2012 เพื่อจำกัดต้นทุนให้อยู่ในระดับเดียวกับของบริษัทคู่แข่งในญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป
ด้านฟอร์ดพร้อมขายกิจการ วอลโว่ คาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นแบรนด์รถหรูสัญชาติสวีเดน และจะหันไปโฟกัสที่การสร้างแบรนด์ฟอร์ดให้เข้มแข็งขึ้น
ขณะที่ไครสเลอร์มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน อาทิ การทำข้อตกลงกับ นิสสัน มอเตอร์ โค โดยไครสเลอร์จะผลิตรถกระบะให้นิสสัน แลกเปลี่ยนกับการที่นิสสันผลิตรถขนาดเล็กให้ไครสเลอร์ เป็นต้น