เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษในเดือนพ.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ตัวเลขว่างงานถีบตัวสูงขึ้น และธนาคารพาณิชย์ควบคุมการออกสินเชื่อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งได้จากการทำแบบสอบถามประชาชน 1,00 คนในระหว่างวันที่ 20 ต.ค.- 16 พ.ย. ปรับตัวลดลง 6 จุดไปอยู่ที่ระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจในเดือนพ.ค.2547 เมื่อเทียบกับที่เคยอยู่ในระดับ 83 จุดเมื่อปีที่แล้ว
โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอลิสแตร์ ดาร์ลิง รัฐมนตรีคลังอังกฤษได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีเพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งประกอบด้วยการใช้นโยบายลดเงินภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 2.56 หมื่นล้านปอนด์ (3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นเวลา 2 ปี หลังจากที่ได้เสนอวงเงินค้ำประกันหลักทรัพย์จำนองเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไปแล้วในก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะเดินหน้าทุ่มเทความพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1% ไปอยู่ในระดับ 2% ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2494 ต่อเนื่องจากที่กระหน่ำหั่นดอกเบี้ยลง 1.5% ในเดือนที่แล้วลงสู่ระดับ 3%
ฟิออนนูอาลา เออร์ลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเนชั่นไวด์ กล่าวว่า ผู้บริโภคมีมุมมองทางเศรษฐกิจในแง่ลบ เมื่อดูจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเนชั่นไวด์ที่มีต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันปรับตัวลดลง 5 จุดไปอยู่ที่ 30 จุด ขณะที่ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในอนาคตลดลง 7 จุดสู่ระดับ 63 จุด ส่วนดัชนีชี้วัดความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้นสู่ระดับ 64 จุดจากระดับ 56 จุด