รมว.คลังสหรัฐกดดันจีนให้นโยบายเงินหยวนที่แข็งค่าในการประชุม SED วันนี้

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 4, 2008 10:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐจะกดดันให้จีนใช้นโยบายเงินที่แข็งค่าขึ้นในการประชุมเพื่อวางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหรือ SED ระหว่างสหรัฐและจีน โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งวันนี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า ไวเฟอร์ อีแวนส์ นักยุทธศาสตร์ของสเตท สตรีท โกลบอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องเงินหยวนอาจจะทำให้การประชุมครั้งนี้มีความร้อนแรงมากขึ้น

การประชุมเพื่อวางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหรือ SED ครั้งที่ 5 นี้นับเป็นการประชุมที่เฮนรี พอลสัน รอมานาน หลังจากที่ได้เป็นผู้ริเริ่มการเจรจาและใกล้จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งรมว.คลังสหรัฐ ก่อนหน้านี้ รมว.คลังสหรัฐชื่นชมกับนโยบายเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นมา 20% นับตั้งแต่ที่จีนได้ยกเลิกการผูกติดค่าเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนโยบายเงินหยวนแข็งค่าอาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางจีนในขณะนี้ เนื่องจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนคงต้องการที่จะหาทางช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกในช่วงที่เศรษฐกิจโลกถดถอย

อย่างไรก็ดี จีนและสหรัฐคาดว่าจะหาทางทำข้อตกลงในประเด็นอื่นๆ เนื่องจากเศรษฐกิจของทั้ง 1 ประเทศกำลังเผชิญกับปัจจัยคุกคามเดียวกัน ซึ่งก็คือ วิกฤตการเงินโลก

ทั้งนี้ เฮนรี พอลสัน ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเงินหยวนในช่วงเปิดประชุท และได้ชื่นชมจีนที่มีบทบาทและรับผิดชอบในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ

สหรัฐเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจากยุโรป ส่วนจีนเป็นประเทศที่มีสำรองเงินตราที่สูงที่สุดในโลกถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนก.ย.และกลายมาเป็นประเทศผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ที่สุด

บทบาทของจีนในฐานะผู้ซื้อหนี้สหรัฐอาจจะมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากสหรัฐได้ใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยเศรษฐกิจจีนเองก็ชะลอตัวลงเรื่อยๆเนื่องจากการส่งออกที่ซบเซา



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ