ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ว่า เศรษฐกิจในทุกภูมิภาคของสหรัฐชะลอตัวลง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทค้าปลีกถดถอยลงและบีบให้โรงงานจำนวนมากต้องลดปริมาณการผลิต
รายงาน Beige Book ฉบับล่าสุดระบุว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคในสหรัฐชะลอตัวลง รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่พุ่งสูงขึ้นยังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ซึ่งทำให้ยอดค้าปลีกทรุดตัวลงในทั่วทุกภูมิภาคของสหรัฐ"
เฟดพยายามหลีกเลี่ยงใช้คำว่า "เศรษฐกิจถดถอย" แม้ก่อนหน้านี้เพียง 2 วันสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NBER) ได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญช่วงขาลงไปจนถึงกลางปีพ.ศ.2552 ซึ่งนับเป็นภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ.2524-2525
"ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลงจำนวนมาก ขณะที่บริษัทค้าปลีกเตรียมใช้กลยุทธ์เพื่อรับมือกับยอดขายที่ถดถอยในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งในเมืองบอสตัน ฟิลาเดลเฟีย คลีฟแลนด์ และดัลลัส เตรียมลดคาดการณ์การใช้จ่ายในปีหน้า" รายงานของเฟดระบุ
เฟดกล่าวว่า "ยอดขายรถยนต์ทรุดตัวลงในทุกภูมิภาค เนื่องจากผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก หลังจากวิกฤตการณ์การเงินส่งผลให้ยอดการผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้น จนเป็นเหตุให้สถาบันการเงินส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการปล่อยเงินกู้ โดยบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์ ได้ยื่นขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสหรัฐรวมกันทั้งสิ้น 3.4 หมื่นล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่เคยขอไป 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ส่วนในภาคอุตสาหกรรมนั้น ผลผลิตอุตสาหกรรมในทุกภูมิภาคทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ และภาคบริการก็ซบเซาลงเช่นกัน"
รายงานของเฟดยังระบุด้วยว่า กลุ่มนายจ้างในเมืองบอสตัน ริชมอนด์ ชิคาโก และดัลลัส ลดการจ้างงานลง ขณะที่บริษัทค้าปลีกในเมืองบอสตันและคลีฟแลนด์ลดการจ้างงานลงเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการเลย์ออฟพนักงานจำนวนมากในเมืองแอตแลนต้าและซานฟรานซิสโก
รายงาน Beige Book ของเฟดมีขึ้นในวันเดียวกับที่ ADP Employer Services ที่ รายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วสหรัฐลดลง 250,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 7 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 0.4% แตะระดับ 6.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนต.ค.ร่วงลงอีก 240,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพ.ย.คาดว่า จะร่วงลงอีก 320,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ที่ 6.8%
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 27-28 ม.ค.ปีหน้า โดยรายงานฉบับล่าสุดรวบรวมได้ก่อนวันที่ 24 พ.ย. ทั้งนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวเอพีรายงาน