ปิโตรนาส (Petroleum Nasional Bhd) รัฐวิสาหกิจน้ำมันของมาเลเซีย ตัดสินใจปิดโรงงานปิโตรเคมีบางแห่งในประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
นสพ. เดอะ สตาร์ ของมาเลเซีย รายงานว่า ปิโตรนาสได้ปิดโรงงานผลิตปิโตรเคมีในเขต Kertih รัฐตรังกานู และเขต Gebeng รัฐปาหัง อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่ความต้องการโพลีเมอร์ทรุดลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากยอดสั่งซื้อในต่างประเทศที่ร่วงลง
ฮัสซัน เมริกัน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของปิโตรนาส กล่าวว่า ปิโตรเคมีเป็นวัตถุดิบที่ใช้สำหรับการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และเนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบในช่วงที่เศรษกิจโลกชะลอตัว ดังนั้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจึงได้รับผลกระทบตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยโรงงานปิโตรเคมีที่ปิโตรนัสปิดดำเนินการอย่างไม่มีกำหนดในครั้งนี้ ผลิตโพลีเมอร์ หรือเรซิน หรือโพลีเอธีลีน ซึ่งใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนรถยนต์ และพลาสติกห่ออาหาร
นอกจากนี้ ฮัสซันยังได้ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า มาเลเซียได้ลงนามในข้อตกลงผลิตก๊าซมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐกับอิหร่าน ฮัสซันกล่าวว่า ปิโตรนาสมีการลงทุนร่วมกับบริษัทของอังกฤษและเยอรมนี แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในการทำข้อตกลงก๊าซกับอิหร่าน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า BASF บริษัทเคมีของเยอรมนี มีโรงงาน 12 แห่งตั้งอยู่ในมาเลเซีย ภายใต้การร่วมทุนกับปิโตรนาส โดย BASF ได้ตัดสินใจปิดโรงงาน 80 แห่งทั่วโลก ภายหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่ต้องการน้อยลงมาก