ฟอร์ด มอเตอร์ อาจจะขายกิจการรถวอลโว่ถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่ฟอร์ดจ่ายให้กับวอลโว่ไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และจะจ้างเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เป็นที่ปรึกษา
ฟอร์ด ซึ่งซื้อวอลโว่มาเป็นเงินจำนวน 6.4 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2545 ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของแบรนด์วอลโว่ในเรื่องความปลอดภัยของรถ เพื่อเป็นจุดแข็งดึงดูดผู้สนใจเข้าซื้อกิจการ โดยผลการสำรวจของสหภาพผู้บริโภคสหรัฐชี้ว่า รถยนต์วอลโว่ติดอันดับ 1 เรื่องความปลอดภัย
บลูมเบิร์กรายงานว่า เฟอร์ดินานด์ ดุดเดนฮอฟเฟอร์ ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยยานยนต์ของมหาวิทยาลัย Gelsenkirchen กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์กดดันเพื่อให้ได้มาซึ่งงบสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ ฟอร์ดอาจจะไม่สามารถตั้งราคาขายตามที่ต้องการได้ ผู้สนใจซื้อกิจการยานยนต์อาจจะเป็นบริษัทรถจีน หรือบริษัทที่รัฐบาลสวีเดนดูแล ขณะที่เรโนลต์ เอสเอ ไม่สนใจที่จะซื้อกิจการ
ดุดเดนฮอฟเฟอร์ กล่าวว่า สำหรับผู้ซื้อนั้น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะซื้อกิจการ แต่สำหรับฟอร์ดแล้วช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะเลือกได้มากนัก
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ฟอร์ดระบุว่า อาจจะขายกิจการรถวอลโว่ เพื่อแสดงให้สภาคองเกรสว่า บริษัทได้ดำเนินการเพื่อลดค่าใช้จ่ายและกลับมาทำกำไร โดยค่ายรถบิ๊กทรีของสหรัฐคือ ฟอร์ด จีเอ็ม และไครสเลอร์ กำลังขอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อพยุงกิจการของบริษัทให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และวิกฤตสินเชื่อที่ทำให้ยอดขายรถหดตัว