โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์อาจใช้นโยบายลดค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ลง 2.3% อย่างเร็วที่สุดในเดือนม.ค.ปีหน้า หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้เดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไปอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.จนทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.7% ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่จีนได้ยกเลิกนโยบายผูกติดเงินหยวนกับเงินดอลลาร์เมื่อเดือนก.ค.ปี 2548
ฟิโอนา เลก นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า "จากอัตราอ้างอิงสกุลเงินหยวนที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ ทำให้มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์จะจัดประชุมเพื่อกำหนดนโยบายปรับลดค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับช่วงการซื้อขายสกุลเงินเพื่อปล่อยให้เงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลงมาจากระดับปัจจุบัน"
โดยธนาคารสิงคโปร์ ซึ่งใช้นโยบายที่เน้นการกำหนดค่าเงินเป็นแนวทางนั้นได้หันมาใช้นโยบายลดการแข็งค่าของสกุลเงินนับตั้งแต่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2545 เนื่องจากเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่อ่อนค่าลงจะช่วยให้ภาคธุรกิจส่งออกเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกอาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป ต่างผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน และปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยามที่วิกฤตสินเชื่อกำลังบ่อนทำลายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.30 น. ตามเวลาสิงคโปร์ เงินดอลลาร์สิงคโปร์เทรดที่ระดับ 1.5247 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยสกุลเงินดังกล่าวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.5338 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์ในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2550
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์กล่าวว่า สิงคโปร์จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปอีกประมาณ 1 ปีและอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอีกนานหลายปีก่อนที่สถานการณ์ต่างๆจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยรัฐบาลคาดว่ายอดส่งออกในปีนี้จะร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2544 ที่ระดับ 4%