นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ไม่ค่อยดีนักการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้ามีโอกาสขยายตัวติดลบที่ระดับร้อยละ 5 โดยจะเริ่มเห็นการติดลบที่ร้อยละ 3 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ที่อาจมีการขยายตัวเพียงร้อยละ 1 ในปีหน้าที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ทำให้โครงการขนาดใหญ่ที่จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งไม่สามารถใช้นโยบายการคลังในการทำหน้าที่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เนื่องจากนโยบายบางอย่างต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดี และหากมีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดก็อาจช่วยให้การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าติดลบน้อยลงได้
นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ภาคเอกชนเลิกหวังถึงตัวนายกฯ โดยมองว่า หากใครจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็คงจะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ดังนั้น ภาคเอกชนจึงเน้นการดูแลตัวเองให้อยู่รอดในการทำธุรกิจท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน