ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) คาดตลาดอินเตอร์แบงค์อาจเข้าสู่ภาวะชะงักงันอย่างต่อเนื่อง หากสถาบันการเงินหันไปพึ่งพาเม็ดเงินอัดฉีดจากธนาคารกลางต่างๆ ซึ่งจะทำให้สถาบันการเงินเหล่านี้ไม่กู้ยืมเงินระหว่างธนาคาร
ฟรังโค-หลุยส์ ไมชอด และ เกิร์ท ชนาเบล นักวิเคราะห์ของ BIS กล่าวว่า "ธุรกรรมการปล่อยกู้ระหว่างแบงค์ยังไม่กระเตื้องขึ้น ส่งผลให้กลไกในตลาดอินเตอร์แบงค์เข้าสู่ภาวะชะงักงัน แม้ธนาคารกลางพยายามเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการใช้มาตรการรับประกันการปล่อยกู้ระหว่างธนาคารก็ตาม"
รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารเพื่อคลี่คลายภาวะตึงตัวในระบบ รวมถึงรัฐบาลสหรัฐที่เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ แต่ BIS กล่าวว่า "ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอีกนานเพียงใด นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการอัดฉีดสภาพคล่อง ก็จะยังทำให้อัตราการปล่อยกู้ในตลาดอินเตอร์แบงค์ซบเซาลงด้วย"
อีซีบีประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.75% สู่ระดับ 2.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไป นับเป็นการตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงมากที่สุดตั้งแต่ที่ได้มีการเริ่มใช้เงินยูโรเมื่อปีพ.ศ. 2542 ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจดอกเบี้ย 1% ลงมาอยู่ที่ 2.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2494
เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เฟดเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการประกาศจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินสดมาสำรองสภาพคล่องไว้กับเฟด ซึ่ง BIS กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ธุรกรรมการกู้ยืมระหว่างแบงค์ซบเซาลงทันที สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน