แฟรงค์ กง นักเศรษฐศาสตร์ของเจ.พี. มอร์แกน กล่าวว่า แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวนของจีนอาจส่งผลในด้านบวกกับธุรกิจต่างๆ เช่น โครงการสาธารณูปโภค โทรคมนาคม ในปีหน้า แต่ก็ยังมีเรื่องน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับคุณภาพของการลงทุนที่จะยังคงเป็นปัจจัยที่ครอบงำตลาด โดยแผนการยกระดับเครือข่ายขนส่งและสื่อสาร การสร้างและปรับปรุงสนามบิน รวมทั้งการกระตุ้นบริการทางสังคมที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการของจีน จะทำให้จีนยังคงมีความสามารถในการกระตุ้นการลงทุนที่จำเป็น เพื่อรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับ 8% ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี จีนยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวพันกับผลกระทบต่อการผลิตจากการใช้นโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายจำนวนมหาศาล เพราะอาจจะทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อนแรงเกินไปภายใต้การลงทุนที่ไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสมและไม่ได้มีการประสานงานกันมาเป็นอย่างดี
นักเศรษฐศาสตร์เจพีมอร์แกน กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวนนั้นคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของยอดการลงทุนทั้งหมดที่ได้มีการวางแผนไว้สำหรับช่วง 2 ปีข้างหน้า ที่ผ่านมางบการใช้จ่ายด้านโครงการสาธารณูปโภคของรัฐบาลในระดับท้องถิ่นของจีนเองก็อยู่ในวงเงินถึง 20 ล้านล้านหยวนแล้ว รัฐบาลในระดับท้องถิ่นเองก็รอมาเป็นเวลาหลายปีกว่าที่จะได้เปิดตัวโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานและโครงการเพื่อสังคมใหม่ๆ แต่จนถึงขณะนี้โครงการดังกล่าวก็ยังถูกดึงไว้ เพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการขยายตัวมากจนเกินไป
ปัจจุบันโครงการต่างๆได้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการภายในประเทศ ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการลงทุนจึงกลายมาเป็นหัวข้อที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างหนัก เช่น โครงการลงทุนเพื่อสร้างอาคารสำนักงานหรือการผลิตของภาคเอกชนในโครงการต่างๆอาจจะถูกนำมาปรับปรุงใหม่ เนื่องจากทางการจีนอาจจะไม่อนุมัติให้ลงทุนในโครงการเหล่านี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ความต้องการที่อ่อนตัวลง ขณะที่การผลิตและอุปทานจะยิ่งสูงเกินความต้องการและอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อในที่สุด สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน