นายซู เลอเจียง ประธานบริษัทเป๋าสตีล กรุ๊ป ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของจีนเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตเหล็กของจีนพุ่งขึ้นแซงหน้าอุปสงค์ และราคาเหล็กจะแกว่งตัวแตะระดับต่ำสุดเป็นเวลานาน
ซูกล่าวว่า ปริมาณการใช้เหล็กของจีนจะขยายตัวไม่ถึง 400 ล้านตันในปีนี้ หากคำนวณจากตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งระบุถึงอัตราการใช้เหล็กที่ลดลงอย่างมากจากกำลังการผลิตเหล็กในประเทศที่ 600 ล้านตันต่อปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทเหล็กของจีนได้ปรับลดกำลังการผลิตเนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวลดลง โดยกำลังการผลิตต่อวันลดลงสู่ระดับ 1.56 ล้านตันในเดือนมิ.ย.หรือ 570 ล้านตันต่อปี และที่ระดับ 1.16 ล้านตันในเดือนต.ค.หรือ 420 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ ราคาเหล็กในจีนมีความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดมีความอ่อนไหวต่อราคาสูง ซึ่งราคาเหล็กจะแกว่งตัวลงแตะระดับต่ำเป็นเวลานาน
ด้านรองเลขาธิการของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) กล่าวเมื่อเดือนต.ค.ว่า บริษัทเหล็กขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวน 42 แห่งจากทั้งหมด 71 แห่งรายงานตัวเลขขาดทุน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวและราคาเหล็กที่ร่วงลง แต่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดยซูแนะว่าบริษัทควรเดินหน้าพัฒนาธุรกิจหลักควบคู่ไปกับปฏิรูประบบการดำเนินธุรกิจ
ด้านเหอ เหวินโป ผู้จัดการทั่วไปของเป๋าสตีลกล่าวว่า บริษัทเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลพวงจากวิกฤตการเงินทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิต ปริมาณและมูลค่าของยอดขาย