ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลัง"โอบามา"เล็งใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 9, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่า บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วางแผนใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ที่เคยมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และหันไปแบกรับความเสี่ยงด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินอื่นๆ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2933 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2734 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.4904 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4762 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 92.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.870 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.2045 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2194 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.5478 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ จากระดับ 0.5340 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5478 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.5340 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ความต้องการสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดน้อยลง หลังจากมีข่าวว่าโอบามาวางแผนกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 เพื่อสร้างงานอย่างน้อย 2.5 ล้านตำแหน่งภายในปีพ.ศ. 2553 โดยโอบามาระบุว่าเขาให้ความสำคัญในลำดับต้นๆกับการรับมือกับตัวเลขว่างงาน, ภาวะตลาดสินเชื่อชะงักงัน, ราคาบ้านตกต่ำ และทุกสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะนำมาใช้นั้น มีศักยภาพสูงพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้

นักลงทุนจับตาดูรัฐบาลอินเดียที่วางแผนจัดสรรรงบประมาณเพิ่มเติม 4 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ เพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นหลังจากเกิดเหตุโจมตีนครมุมไบ โดยรัฐบาลอินเดียกำลังเร่งดำเนินการทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรงเกินไป ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศสำคัญหลายแห่งเผชิญกับภาวะถดถอย โดยธนาคารกลางอินเดียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของสินเชื่อ

ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนธ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์

ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสได้อนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์ โค และ ไครสเลอร์ แอลแอลซี แม้เงินจำนวนดังกล่าวยังต่ำกว่าที่ค่ายรถทั้งสามเรียกร้องมาทั้งสิ้น 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตาม โดยจีเอ็มต้องการรเงินช่วยเหลือ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ฟอร์ดต้องการเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ ส่วนไครสเลอร์เรียกร้องเงินช่วยเหลือจำนวน 7 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ