สถาบันวิจัยโนมูระรายงานในวันนี้ว่า จำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายบนกระดานหลักของตลาดหุ้นโตเกียวมีแนวโน้มร่วงลงในปีนี้ ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี เนื่องจากภาวะตื่นตระหนกที่เป็นผลมาจากการล้มละลายของบริษัท ยามาอิชิ ซิเคียวริตีส์ ส่งผลให้หลายบริษัทไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำหุ้น IPO ออกเสนอขายในตลาด นอกจากนี้ ภาคธุรกิจของญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก
ซาดากาสึ โอซากิ หัวหน้านักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยโนมูระกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายบนกระดานหลักจะช่วยให้บริษัทเอกชนสามารถระดมเงินทุนได้เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินที่สร้างความเสียหายไปทั่วโลกและการล้มละลายของยามาอิชิ ซิเคียวริตีส์ อาจทำให้บริษัทหลายแห่งไม่กล้านำหุ้น IPO ออกเสนอขายในตลาด
ขณะที่นายยาซูยูกิ โนนูมะ ผู้อำนวยการฝ่ายจดทะเบียนซื้อขายประจำตลาดหุ้นโตเกียวกล่าวว่า บริษัทบางแห่งให้ความสำคัญกับปรับโครงสร้างภายในองค์กรให้แข็งแกร่งมากกว่าที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด จึงเป็นเหตุให้จำนวนบริษัทที่นำหุ้น IPO เข้าเทรดในตลาดลดน้อยลง ซึ่งทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากภาวะขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองที่มีต้นตอมาจากสหรัฐ โดยมูลค่าความเสียหายในตลาดแห่งนี้คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
โตเกียว โชโก รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 5.27% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1,277 แห่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากจำนวนบริษัทที่ประสบภาวะขาดแคลนเงินทุนการดำเนินงานได้ปรับตัวสูงขึ้น
ผลสำรวจอุตสาหกรรม 10 ประเภทในญี่ปุ่น รวมถึง อุตสาหกรรมขนส่ง ธุรกิจบริการด้านการเงิน สื่อสารโทรคมนาคม และโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า จำนวนบริษัทที่ล้มละลายมีมากขึ้น โดยจำนวนบริษัทล้มละลายในอุตสาหกรรมขนส่งพุ่งขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 2 เท่า แตะระดับ 53 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ การบริการ และการก่อสร้าง มีสถิติการล้มละลายเพียงเล็กน้อย โดยอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์พบบริษัทล้มละลายแห่งแรกในรอบ 6 เดือน และอุตสาหกรรมก่อสร้างพบบริษัทล้มละลายแห่งแรกในรอบ 11 เดือน
ส่วนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวและประสบภาวะล้มละลาย มีจำนวนทั้งสิ้น 3 แห่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง รวมถึง บริษัท โมริโมโตะ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีหนี้สินจำนวนมากถึง 1.61 แสนล้านเยน