ยูโรอ่อนค่าที่ตลาดโตเกียว จากกระแสคาดความเชื่อมั่นศก.เยอรมนีร่วงหนัก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 9, 2008 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียววันนี้ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงผู้ที่มีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจมากกว่าผู้มีมุมมองในแง่บวกเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน ซึ่งภาวะดังกล่าวจะยิ่งกดดันให้ธนาคารกลางยุโรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

นอกจากนี้ เงินยูโรยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของยุโรปทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินยูโรเป็นแหล่งลงทุนที่ไม่ดึงดูดใจของนักลงทุน

ด้านสกุลเงินในเอเชียอย่างเงินวอนของเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์จากกระแสคาดการณ์ว่าทางการเกาหลีใต้จะทุ่มเทความพยายามในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะกระตุ้นให้ตลาดหุ้นเอเชียคึกคักขึ้น และทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นกันอย่างหนาแน่น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.06 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2916 ดอลลาร์/ยูโรจากระดับ 1.2963 ดอลลาร์/ยูโรในตลาดนิวยอร์ก นอกจากนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 119.94 เยน/ยูโรจากระดับ 120.26 เยน/ยูโร ขณะที่เงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ระดับ 92.83 เยน/ดอลลาร์

ส่วนเงินวอนของเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้น 0.5% แตะที่ 1,441.00 ต่อดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลจะใช้ง่ายเงินกว่าครึ่งหนึ่งในบัญชีงบประมาณประจำปีหน้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

อาคิโอะ ชิมิซุ นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi UFJ Trust & Banking Corp กล่าวว่า เงินยูโรอ่อนค่าลง เพราะหลายฝ่ายคาดว่าผลสำรวจความเชื่อมั่น ZEW ของเยอรมนีจะบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจยุโรปที่ซบเซา ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีมีแนวโน้มร่วงเกือบแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค. หลังวิกฤติการเงินโลกฉุดเศรษฐกิจเยอรมนีให้ถดถอยลงเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 38 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีอาจอยู่ที่ระดับติดลบ 57 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับติดลบ 53.5 จุดในเดือนพ.ย. หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 63.9 จุดในเดือนก.ค. ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งยุโรปในนาม ZEW จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ