บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) แก่หุ้นกู้ประเภทด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO มูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2561 ที่ ‘A-(tha)’ และให้แนวโน้มอันดับเครดิต "มีเสถียรภาพ"
ฟิทช์กล่าวว่า การให้อันดับเครดิตแก่ TISCO ครั้งนี้สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร อย่างไรก็ตาม จากการที่ TISCO มีการพึ่งพาแหล่งเงินระยะสั้นเป็นหลักและมีการกระจายตัวของการระดมเงินไม่มากนัก ทำให้ TISCO มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศไทย
นอกจากนี้ ฟิทช์คาดว่า TISCO อาจได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมอ่อนแอลง โดยฟิทช์คาดการณ์ว่า GDP ประเทศไทยอาจขยายตัวเพียง 0.9% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารในปีพ.ศ. 2552
ส่วนการให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพนั้น สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรโดยรวม คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดิม แม้ว่าธนาคารจะมีโครงสร้างในด้านการระดมเงินและสภาพคล่องที่อ่อนแอกว่าธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ฟิทช์กล่าวว่า จากการที่ TISCO มีการพึ่งพาเงินฝากจากลูกค้าผู้ฝากเงินรายใหญ่เป็นหลัก ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของฐานการระดมเงินของธนาคาร และโดยส่วนใหญ่เป็นหนี้สินระยะสั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนจากภาครัฐในปัจจุบันและแหล่งเงินกู้สำรองของธนาคาร มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องของธนาคารลง TISCO มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนหนี้ระยะยาวและเพิ่มฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยให้มากขึ้นภายใน 2 — 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากยอดของเงินฝากที่จะได้รับการคุ้มครองจะทยอยลดลง
ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2551 TISCO มีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จาก 1.2 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2550 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากค่านายหน้าการขายประกัน แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าสินเชื่อและผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงในปีหน้า อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2551 ของ TISCO ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 4%