นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐหดตัวลงในเดือนต.ค.

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 9, 2008 13:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองในสหรัฐอาจปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถดถอยเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีหน้า

ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 34 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) อาจลดลงราว 3% ในเดือนต.ค. หลังจากที่ร่วงลงกว่า 4.6% ในเดือนก.ย.

ธนาคารในสหรัฐต่างลังเลที่จะปล่อนสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เนื่องจากจำนวนบ้านที่ถูกยึดมีมากจนส่งผลให้มูลค่าบ้านลดลงและการขาดทุนขยายตัวมากขึ้น ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาเช่นนี้อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะถดถอยนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะรายงานยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ณ เวลา 10.00 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ระหว่างขยายตัว 2.5% ถึงหดตัว 7%

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ แสดงเจตจำนงว่าจะเริ่มให้ความช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านอย่างจริงจังเพื่อลดจำนวนบ้านที่ถูกยึด ในขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครทก็เรียกร้องให้ เฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลัง แบ่งเงินครึ่งหนึ่งของเงินกู้วิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อนำมาให้ความช่วยเหลือธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ