นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ปรับแผนพัฒนาไฟฟ้าในระยะยาว(PDP)ใหม่ โดยจัดทำเป็น 3 กรณี แบ่งเป็น กรณีที่ 1 เศรษฐกิจในปี 52 สามารถขยายตัวได้ตามปกติที่ประมาณ 2% เนื่องจากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามแผน, กรณีที่ 2 เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าปกติหรือที่ระดับ 1% หากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ยังไม่คลี่คลาย และกรณีที่ 3 เศรษฐกิจขยายตัวได้สูงถึง 3 % ซึ่งถือว่านโยบายเศรษฐกิจได้รับผลดีเกินคาด โดยอาจจะปรับสัดส่วนการซื้อไฟฟ้าจากในประเทศและต่างประเทศให้สมดุลกัน แต่ยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบกับความมั่นคงของไฟฟ้าของประเทศ
ขณะที่นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ภาพรวมการใช้ก๊าซหุงต้ม(LPG)ในประเทศช่วงนี้มีอัตราการใช้ลดลง โดยเฉพาะการใช้ LPG เป็นวัตถุดิบในการผลิตปิโตรเคมีลดลง เพราะปัจจุบันการส่งออกสินค้าปิโตรเคมีลดลง ส่วนการใช้ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมนั้น หากรัฐบาลประกาศขึ้นราคาก็คาดว่าปริมาณการใช้จะลดลง ขณะที่ภาคครัวเรือนหากสามารถป้องกันการลักลอบส่งออกก๊าซ LPG ไปประเทศเพื่อนบ้านได้ก็คาดว่าการใช้ก็จะลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการใช้จะลดลงแต่ในเดือนธ.ค.นี้ ยังต้องนำเข้า LPG จากต่างประเทศอีกประมาณ 66,000 ตัน เนื่องจากโรงแยกก๊าซโรงที่ 1 และ 5 ยังปิดซ่อมบำรุงและโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ยังปิดซ่อมบำรุง โดยคาดว่าจะเปิดเดินเครื่องได้หลังวันที่ 15 ธ.ค. ทำให้ผลิต LPG ในประเทศได้ลดลงจึงต้องมีการนำเข้า