บาร์นีย์ แฟรงค์ ประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำ
สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมเครกล่าวว่า คณะทำงานชุดใหม่ของสหรัฐจะใช้เงินจากแผนกระตุ้นภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้าน
ดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยให้บรรดาเจ้าของบ้านรอดพ้นจากการถูกยึดบ้านหลุดจำนองได้ก็ต่อเมื่อนาย
บารัค โอบามา เข้ารับตำแหน่ง
ประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2552
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายบาร์นีย์ แฟรงค์ ว่าประชาชนต่างเชื่อว่า เงินส่วนหนึ่งในมาตรการดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ไม่ต้องถูกยึดบ้าน แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวกลับยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังจะเห็นได้จากตัวเลขการยึดบ้านหลุดจำนองที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือด้านการปล่อยเงินกู้ในภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวานนี้บ่งชี้ว่า กว่าครึ่งหนึ่งของบรรดาเจ้าของบ้านที่สามารถหาเงินมาผ่อนบ้านได้ในช่วงครึ่งปีแรกนั้นจะไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้อีก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า รัฐบาลควรใช้เงินในการกระตุ้นการจ้างงานมากกว่าที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านไม่ต้องถูกยึดบ้านดีกว่าหรือไม่
ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจในสหรัฐกำลังเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่ว่าจะเป็นภาคการเงิน ตลาดสินเชื่อ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุว่ามีชาวอเมริกาทุกๆ 1 ใน 10 คนต้องถูกยึดบ้านหลุดจำนอง รวมถึงตลาดแรงงานที่มีตัวเลขจ้างงานร่วงลงหนักถึง 533,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ค่ายรถ "บิ๊กทรี" กำลังรอความหวังในการอนุมัติเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งทางพรรคเดโมแครตกำลังเรียกร้องให้พรรครีพับลินร่วมมือกันโหวตร่างมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--