เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่าทางไอเอ็มเอฟอาจจำเป็นต้องปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกในเดือนม.ค.
"ผมเกรงว่าเราจำเป็นต้องปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเดือนม.ค." จอห์น ลิปสกี รองกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ กล่าวในการประชุมทางไกลจากวอชิงตันไปยังแฟรงค์เฟิร์ท
ในการอัพเดทรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกประจำครึ่งปีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวราว 2.2% ในปีหน้า ลดลงจาก 3.0% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในรายงานก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ต.ค.
สำหรับไอเอ็มเอฟแล้ว เศรษฐกิจที่ขยายตัวเพียง 3% ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายลิปสกีกล่าวว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลกทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา ในขณะที่ธนาคารกลางก็ช่วยกันบรรเทาความตึงเครียดในตลาดสินเชื่อ
นายลิปสกีคาดการณ์ว่าธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ยกเว้นธนาคารกลางบางแห่ง เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น
"หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปยังสามารถลดดอกเบี้ยได้อีก แต่อีกหลายประเทศอย่างสหรัฐกับญี่ปุ่นได้ลดดอกเบี้ยจนแตะระดับที่ต่ำมากแล้ว" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม นายลิปสกีแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกอาจฟื้นตัวในช่วงปลายปีหน้า
"เรายังมีความหวังว่าสภาพตลาดเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้นและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวในช่วงปลายปีหน้า" เขากล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน