อัตราว่างงานออสเตรเลียพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 1 ปี เนื่องจากนายจ้างต่างปรับลดการจ้างพนักงานพาร์ทไทม์ในเดือนพ.ย. ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะถดถอยเช่นเดียวกับญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ โดยตัวเลขผู้ได้รับการจ้างงานลดลง 15,600 ตำแหน่งหลังจากที่เคยปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานในส่วนของพนักงานฟูลไทม์ปรับตัวขึ้น 8,800 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. แต่การจ้างพนักงานพาร์ทไทม์ปรับตัวลดลง 24,400 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และริโอ ทินโต กรุ๊ป เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ประกาศลอยแพพนักงานท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ซึ่งริโอ ทินโต ผู้ผลิตเหมืองรายใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลกเปิดเผยว่า บริษัทจะปรับลดพนักงาน 14,000 ตำแหน่ง พร้อมทั้งลดเงินลงทุนลงกว่าครึ่งหนึ่ง และจะขายสินทรัพย์บางส่วนเนื่องจากอุปสงค์เหล็กเริ่มหดตัวลงในยามที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
นอกจากนี้ สายการบินแควนตัส แอร์เวย์ส, ฟอร์ด มอเตอร์ โค, แฟร์เฟ็กซ์ มีเดีย และเทลสตร้า คอร์ป เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่เพิ่งประกาศแผนลดพนักงานไปเมื่อไม่นานมานี้
ด้านเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3.0% นับตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งเป็นสถิติการปรับลดดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจถดถอยในปี 2534 ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในที่ประชุมวันที่ 3 ก.พ.2552