โซนี่ คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทจะถอนตัวออกจากการทำธุรกิจผลิตเครื่องรับโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาภายในช่วงต้นปีหน้า โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัททั่วโลก
ผู้ผลิตสินค้าอิเล็คทรนิคส์รายใหญ่ของญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัทจะยุติการผลิตทีวีที่โรงงานในเมืองพิตสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ภายในเดือนก.พ.2552 ส่งผลให้โรงงานในเมืองบาฆา ในเม็กซิโก จะเป็นโรงงานผลิตทีวีเพียงแห่งเดียวของโซนี่ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจุบันโรงงานในพิตสเบิร์กว่าจ้างพนักงานทั้งสิ้น 560 คน และดำเนินการประกอบทีวีจอแอลซีดี รุ่นบราเวีย ขนาด 46 และ 52 นิ้ว โดยแหล่งข่าวเผยว่า มีแนวโน้มว่า พนักงานทั้งหมดในฝ่ายผลิต บริการซ่อมบำรุง และโลจิสติกส์ จะถูกเลิกจ้าง แต่ในระหว่างนี้ โรงงานจะดำเนินการเป็นศูนย์บริการซ่อมบำรุงและจัดจำหน่ายต่อไปจนกว่าจะปิดตัวลงอย่างถาวรในเดือนมีนาคม 2553
ทั้งนี้ ข่าวยุติการดำเนินการผลิตทีวีในสหรัฐมีขึ้น หลังจากที่โซนี่ เพิ่งออกมาประกาศเมื่อวันอังคารว่า ภายในเดือนมีนาคม 2553 บริษัทจะลดจำนวนโรงงานผลิตทั่วโลกลงประมาณ 10% จาก 57 แห่งในปัจจุบัน ภายใต้แผนปรับโครงสร้างเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นอกจากนี้ แผนปรับโครงสร้างดังกล่าวยังรวมถึงการลดจำนวนพนักงานราว 16,000 คนทั่วโลกด้วย
โซนี่ยังเผยด้วยว่า บริษัทมีแผนการที่จะปิด โซนี่ แดกซ์ เทคโนโลยี เซ็นเตอร์ ในฝรั่งเศส ซึ่งผลิตเทปและอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียงอื่นๆ ด้วย
แผนปรับโครงสร้างขนานใหญ่ของโซนี่ได้รับการเปิดเผย หลังจากที่โซนี่คาดการณ์ว่า ผลกำไรสุทธิสำหรับปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2552 จะทรุดฮวบลงถึง 60% จากกำไรที่ระดับ 1.5 แสนล้านเยนในปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากความผันผวนของค่าเงินและความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์จอแบน ที่ดิ่งลง