รัฐมนตรีอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้ออกมาผลักดันผู้บริหารให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการคงการจ้างงานในบริษัทไว้ แม้ว่าวิกฤตการเงินโลกจะทำให้บริษัทเอกชนต่างๆต้องพบกับความยากลำบากต่างๆนานาในการบริหารธุรกิจ โดยย้ำว่า การแก้ปัญหาเรื่องการจ้างงานนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเอกชน
โตชิฮิโร่ นิกาอิ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำ 13 ราย อาทิ ประธานบริษัทโตชิบา นิปปอน สตีล คอร์ป มิตซูบิชิ คอร์ป และชาร์ป ว่า การดูแลเรื่องเสถียรภาพการจ้างงานได้กลายมาเป็นประเด็นทางการเมืองที่สำคัญในช่วงวิกฤตเช่นนี้ รัฐบาลเองก็ต้องดูว่าภาคเอกชนสามารถรับมือกับเรื่องการจ้างงานได้มากน้อยเพียงใด ในขณะที่ศึกษาความเป็นไปได้ในการลดภาษีและนโยบายอื่นๆที่ทางเอกชนได้เรียกร้องมา
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องการจ้างงานภายหลังการประชุม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้บริหารบางส่วนได้เอ่ยถึงประเด็นเรื่องการเจรจาเปิดเสรีการค้ารอบโดฮาขององค์กรการค้าโลก โดยชี้ว่าหากที่ประชุมสามารถสรุปเรื่องการเจรจาได้ก็จะเป็นโอกาสที่สำคัญในการขยายธุรกิจสำหรับบริษัทของญี่ปุ่น นอกจากนี้ เอกชนยังได้เรียกร้องให้มีการสรุปการเจรจาเปิดเสรีการค้าโดยเร็วในการประชุมที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนที่เจนีวา
ประธานโตชิบา กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า เชื่อว่าแต่ละบริษัทคงจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในเรื่องของการจ้างงาน
ก่อนหน้านี้ โซนี่ คอร์ป ได้ประกาศลดพนักงานถึง 16,000 ทั่วโลกในช่วงเดือนมี.ค. 2553