เรียลตี้แทรค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนบ้านที่ถูกธนาคารยึดในสหรัฐพุ่งขึ้น 28% ในเดือนพ.ย.จากปีที่แล้ว พร้อมกับคาดว่าอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นรุนแรง จะส่งผลให้จำนวนบ้านที่ถูกธนาคารยึดพุ่งขึ้นเป็น 1 ล้านคนในปีหน้า
ริค ชาร์ก้า รองประธานเรียลตี้แทรค กล่าวว่า "เมื่อเดือนที่แล้วจำนวนบ้านที่เจ้าของผิดนัดชำระหนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 259,085 หลัง ซึ่งทางสถาบันการเงินได้ติดป้ายเตือนว่าอาจจะต้องนำออกขายทอดตลาดหรือถูกยึด และเราคาดว่าจำนวนบ้านที่ถูกยึดจะพุ่งขึ้นอีกเป็น 1 ล้านหลังในปีหน้าเนื่องจากอัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ผลสำรวจความคิดเห็นของภาคเอกชนในสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดย แมนเพาเวอร์ บริษัทจัดหางานรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก พบว่า จำนวนบริษัทเอกชนในสหรัฐที่วางแผนจะจ้างงานในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า ปรับตัวลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐจะถดถอยลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปีพ.ศ.2552
เจฟเฟอรี โจเรส ซีอีโอแมนเพาเวอร์ กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า อัตราว่างงานในสหรัฐที่มีแนวโน้มพุ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี, มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ และภาวะที่ภาคเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้น ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโอกาสที่บริษัทเอกชนในสหรัฐจะเพิ่มการจ้างงานนั้นแทบจะไม่มี นอกจากนี้ คาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงจะบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐให้ถดถอยยาวนานที่สุดในรอบ 70 ปี สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นายจ้างส่วนใหญ่จับตาดูสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจ้างพนักงานเพิ่ม
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.