ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียอาจชะลอตัวลงเหลือ 4.4% ในปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง 4.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาได้ฉุดรั้งภาคการส่งออกและการลงทุนในประเทศ
สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ภาคธุรกิจส่งออกของอินโดนีเซียเริ่มเผชิญภาวะซบเซาตั้งแต่เดือนต.ค. โดยยอดส่งออกในเดือนต.ค.ทรุดตัวลง 11.61% จากเดือนก.ย.แตะที่ 1.081 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากวิกฤตการเงินทั่วโลกได้บั่นทอนอุปสงค์และส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์ม ทองแดง กาแฟ และเหล็ก และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ
ทั้งนี้ ธนาคารโลกและธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวในระดับ 6% แต่จะเริ่มชะลอตัวลงในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 6.5-7.5% ในปีหน้า หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ย.ชะลอตัวลงมาแตะที่ 11.68% เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น โดยรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการสาธารณูปโภคใหม่ๆและเร่งกระตุ้นการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งใช้มาตรการอื่นๆเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วยการปรับลดราคาน้ำมัน โดยได้ปรับลดราคาน้ำมันเบนซินที่รัฐจ่ายเงินอุดหนุนลง 8.3% เหลือ 5,500 รูเปียห์ต่อลิตร หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงเกือบหลุด 40 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่า อัตราการลงทุนของอินโดนีเซียจะยังคงทรงตัวในปี 2552 ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวที่ระดับ 7% ในปี 2553