(แก้ไข) ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.อยู่ที่ 67.1

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2008 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือน พ.ย. 51 อยู่ที่ 67.1 ลดลงจากเดือน ต.ค.51 ที่อยู่ในระดับ 68.6 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 67.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.8

ทั้งนี้ดัชนีทุกตัวปรับลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมเดือน พ.ย.51 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 82 เดือน

ปัจจัยลบที่เป็นสาเหตุการปรับตัวลดลงของดัชนีดังกล่าว เนื่องจากวิกฤติการเมืองที่มีผลต่อบรรยากาศการลงทุน, การปิดสนามบินแห่งชาติ 2 แห่งที่สุวรรณภูมิและดอนเมือง, วิกฤติปัญหาการเงินในสหรัฐฯ, สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 51 เหลือ 4.5% และภาวะเงินบาทที่อ่อนค่า, ความกังวลปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าสูง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหลายรายการลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้น้ำหนักปัจจัยการเมืองมากกว่าราคาน้ำมัน โดยผู้ตอบ 85.7% ให้น้ำหนักการเมือง ส่วน 80.8% ให้น้ำหนักราคาน้ำมัน แสดงว่าสถานการณ์การเมืองยังน่ากังวลอยู่

"ดัชนีทุกรายการลดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน การบริโภคยังไม่ขยายตัวมากนักในปัจจุบันไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เพราะผู้บริโภคยังกังวลความไม่แน่นอนทางการเมือง ค่าครองชีพที่ยังสูงอยู่ แม้ราคาน้ำมันลดลงแล้ว และความผันผวนของเศรษฐกิจ" นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ คาดว่า หากการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจไทยปีหน้าคาดขยายตัว 0-2% การว่างงานอยู่ที่ 900,000 คน แต่หากการเมืองไม่นิ่ง ยังมีการชุมนุมประท้วง และปิดล้อมสถานที่ต่างๆ รัฐบาลยังมีความเสี่ยงอยู่ ก็จะขยายตัวติดลบแน่นอน โดยไตรมาสแรกอาจติดลบ 1-2% ส่วนไตรมาส 2 อาจติดลบ 2-3% และว่างงานจะเพิ่มเป็น 1.3 ล้านคน จากที่ก่อนหน้านี้ ศูนย์เคยคาดว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวอยู่ที่ 2-3% เท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ