หอการค้าไทยคาดปี 52 ส่งออกวูบอาจติดลบ กำลังซื้อหด/ปิดสนามบินกระทบorder

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2008 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า แม้การส่งออกของไทยในปีนี้จะยังขยายตัวเป็นบวกอยู่ แต่เชื่อว่าในปี 52 จะไม่ขยายตัวหรืออาจจะติดลบได้ เพราะตลาดส่งออกของไทยหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย กำลังซื้อของผู้บริโภคในแต่ละประเทศลดลง ประกอบกับความเชื่อมั่นของลูกค้าที่จะสั่งซื้อสินค้าไทยหายไปจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองทำให้คำสั่งซื้อในไตรมาสแรกของปีหน้าแทบจะไม่มีเลย

อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญฟื้นตัวขึ้นมาได้ อาจทำให้การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีหน้า และอาจทำให้ภาพรวมทั้งปีขยายตัวเป็น 0 หรือบวกขึ้นเล็กน้อย

"ปีหน้าตลาดส่งออกของไทยหดตัว และกำลังซื้อหดตัวทั่วโลก...ไตรมาส 1 แทบไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาเลย ทำให้คาดว่าไตรมาส 1 ปีหน้า การส่งออกไทยจะติดลบ ส่วนไตรมาสที่เหลือจะฟื้นตัวหรือไม่ต้องรอดูเศรษฐกิจสหรัฐฯก่อน หากฟื้นตัวและการเมืองของไทยนิ่ง การส่งออกไทยก็จะเป็นบวกได้" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

สำหรับสิ่งที่ภาคส่งออกไทยจะต้องเผชิญในปีหน้าคือ โรงงานลดกำลังการผลิต และปลดพนักงานหลังจากคำสั่งซื้อลดลง, คู่ค้ากดราคารับซื้อ หรือยืดระยะเวลาการชำระเงินเป็น 30-90 วัน จากที่เคยจ่ายทันที ซึ่งจะยิ่งทำให้สภาพคล่องของผู้ส่งออกไทยหายไป ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐหามาตรการช่วยเหลือ เช่น ขอความร่วมมือธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์ยืดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้, หามาตรการช่วยเหลือในการชะลอการปลดพนักงาน ลดต้นทุนต่างๆ ให้ผู้ส่งออก เช่น ลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกก็ช่วยเหลือตัวเองด้วยการลดต้นทุนต่างๆ เช่น ลดเงินเดือนพนักงาน หาตลาดส่งออกใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีรูปแบบหลากหลาย เพื่อจูงใจลูกค้า

นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จโดยเร็ว และต้องเป็นรัฐบาลตามระบบประชาธิปไตย หากยังคลุมเครือจะทำให้ไทยเสียเวลาในการแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จโดยเร็ว จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน และนักท่องเที่ยวให้กลับมายังไทยได้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ลดความขัดแย้งโดยรัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดย รวมถึงต้องเร่งช่วยภาคส่งออก และกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศโดยเร็ว

นายอภิชาต สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า ปีหน้าการท่องเที่ยวของไทยจะติดลบมากกว่า 3% จากที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 14 ล้านคน จากเป้าหมายการขยายตัวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดขยายตัว 16 ล้านคน

ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวจะเหลือเพียง 500,000 ล้านบาท จากเป้าหมายของททท.ที่ 630,000 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากความไม่มั่นใจทางการเมืองของไทย และการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองที่ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น และไม่แน่ใจในความปลอดภัย

สำหรับสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือคือ ลดภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ลดค่าลงจอดของเครื่องบิน (Landing Fee) เพื่อให้สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ที่ไม่เก็บค่า Landing Fee เลย รวมถึงสายการบินต่างๆ ต้องลดราคาตั๋วโดยสารลงเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ