ประธานาธิบดี ลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ กำลังขอความช่วยเหลือจากจีนและญี่ปุ่น ให้ช่วยยับยั้งค่าเงินวอนที่ร่วงลงรุนแรงถึง 31% ในปีนี้ ส่งผลให้เงินวอนกลายเป็นสกุลเงินที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินสำคัญๆของเอเชีย โดยนายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะ ของญี่ปุ่น และนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน จะเข้าพบกับนายลีที่เมืองฟูคูโอกะ ประเทศญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเรื่องวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก
ในการหารือกันครั้งนี้ คาดว่า นายลีจะหาลู่ทางขยายข้อตกลงการทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินกับหลายประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงสุดของโลก เพื่อระดมทุนปกป้องค่าเงินวอนที่ร่วงลงอย่างหนัก และเพื่อช่วยเหลือบริษัทเกาหลีให้สามารถระดมทุนในการชำระหนี้ต่างชาติได้ในยามที่ตลาดสินเชื่อทั่วโลกเผชิญภาวะตึงตัว
โรเบิร์ต ซับบารามาน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท โนมูระ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า เกาหลีใต้ต้องการระดมทุนสกุลเงินดอลลาร์ให้มากพอที่จะปกป้องประเทศไม่ให้เผชิญวิกฤตการณ์ค่าเงินเหมือนกับในปีพ.ศ.2540 ซึ่งในปีนั้นเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนักลงทุนต่างชาติที่กระหน่ำขายสกุลเงินวอน จนเป็นเหตุให้เกาหลีใต้ต้องยื่นขอเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
"เราคาดว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะออกแถลงการณ์เรื่องการขยายข้อตกลงการทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินกับจีนและญี่ปุ่นในวันนี้ ที่ผ่านมาเกาหลีใต้เคยประสบปัญหาเรื่องทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทรุดตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้มีนโยบายรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดี ด้วยการขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน" ซับารามานกล่าว
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารกลางเกาหลีใต้ วงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการทำธุรกรรมสว็อปค่าเงิน นอกจากนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้วางแผนที่จะขอกู้เงินฉุกเฉินจากเฟดอีกหากจำเป็น