ซาดาคาสุ ทานิงาคิ สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคแอลดีพี และอดีตรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นระหว่างปี 2546 - 2548 กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรใช้จ่ายและลงทุนให้มากกว่าเดิมเพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจประเทศถดถอยมากไปกว่าที่เป็นอยู่
"ญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเอาแต่ลดการใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว" นายทานิงาคิ วัย 63 ปี กล่าว "อันที่จริงเราไม่ควรล้มเลิกการรักษาสมดุลงบประมาณจนกว่าจะถึงปี 2554 แต่เป้าหมายดังกล่าวก็ทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ"
ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ กำลังถูกกดดันให้เพิ่มการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา ในขณะที่จำนวนประชาชนและสมาชิกสภานิติบัญญัติในพรรคที่ให้การสนับสนุนเขาก็ลดลง
ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า คะแนนนิยมของนายอาโสะลดลงเกือบครึ่งเหลือ 20.9% จาก 40.5% เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้รับคะแนนน้อยกว่าอดีตนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ และ ยาสุโอะ ฟุกุดะ ซึ่งถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่งก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน คาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีนโยบายงบประมาณและเศรษฐกิจ กล่าวว่ารัฐบาลไม่ควรลังเลที่จะทุ่มงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาโสะอาจประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 40 ล้านล้านเยน (ราว 4.36 แสนล้านดอลลาร์) ในวันนี้ ซึ่งจะถือว่าเป็นการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน