วุฒิสภาสหรัฐมีมติไม่สนับสนุนแผนการให้ความช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์ในสหรัฐมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ความพยายามของสภาคองเกรสที่จะช่วยเหลือบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ จบสิ้นลง และอาจทำให้บริษัทรถยนต์ทั้งสองไม่มีเงินทุนมากพอที่จะดำเนินธุรกิจได้ในช่วงต้นปีหน้า
นายแฮรี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐได้แสดงความวิตกกังวลว่า ข่าวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคืนนี้ ขณะที่นายโทนี่ แฟรทโต โฆษกวุฒิสภากล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช จะประเมินทางเลือกในหลายๆด้าน หลังจากวุฒิสภาตัดสินใจคว่ำแผนนี้
นายรีดยังกล่าวด้วยว่า "ชาวสหรัฐหลายล้านคน ไม่เฉพาะแต่พนักงานบริษัทรถยนต์เท่านั้น แต่รวมถึงดีลเลอร์ขายรถยนต์ และผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย คริสต์มาสปีนี้คงเป็นปีที่แย่ที่สุดสำหรับคนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้"
บลูมเบิร์กรายงานว่า วุฒิสภาตัดสินใจไม่ผ่านแผนการให้ความช่วยเหลือบริษัทรถยนต์สหรัฐ แม้สภาผู้แทนราษฎสหรัฐมีมติผ่านแผนการดังกล่าวด้วยการลงคะแนนเสียง 237-170 แต่แผนการฉบับนี้ได้คะแนนเสียงจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเพียง 52 - 35 ซึ่งทำให้แผนการดังกล่าวถูกคว่ำไป
หลังจากทราบผลโหวตในวุฒิสภาได้ไม่นาน จีเอ็มได้ออกแถลงการณ์ว่า "เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่แผนการให้ความช่วยเหลือมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา แม้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างดังกล่าวไปเมื่อวานนี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เราจะหาทางออกในทุกๆด้านเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและจะทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทอยู่รอดได้ในวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้"